จุฬา-ธรรมศาสตร์ นำทัพเรือภาคประชาชนพาย เรือคายัค ลุยเก็บขยะปากอ่าวแม่น้ำบางปะกง ระบุไทยเป็นประเทศทิ้งขยะลงทะเลติดอันดับ 6 ของโลก หวังสร้างจิตสำนึกและสื่อสารไปยังประชาชนทั่วไปให้เก็บขยะจากแม่น้ำด้วยการไม่ทิ้งขยะลงในแม่น้ำ
วันที่ 16 ก.ย.61 เวลา 09.30 น. ที่ท่าน้ำเชิงสะพานเทพหัสดิน ต.ท่าข้าม อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ผู้ช่วยศาสตราจารย์ดอกเตอร์ปริญญา เทวนฤมิตรกุล รองอธิการบดี ฝ่ายบริหารและความยั่งยืน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้นำกองทัพเรือคายัคจำนวนกว่า 100 ลำ พร้อมด้วยนักศึกษาและส่วนราชการ ภาคเอกชน ตลอดจนประชาชนทั่วไปลงพายเรือเก็บขยะในลำน้ำบริเวณปากอ่าวแม่น้ำบางปะกง
โดยมี นายสุวิทย์ คำดี ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา เดินทางมาร่วมเป็นประธานบีบแตรปล่อยขบวนเรือเก็บขยะจากจุดเริ่มต้นที่ท่าเทียบเรือเชิงสะพานเทพหัสดินไปยังบริเวณเกาะนกกลางลำน้ำ ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ป่าชายเลนที่สำคัญของจังหวัดฉะเชิงเทรา ก่อนออกสู่ปากทะเลอ่าวไทย รวมระยะทางกว่า 3 กม. ท่ามกลางความสนใจเข้าร่วมกิจกรรมของนักเรียนนักศึกษา และประชาชนทั่วไปจำนวนกว่า 300 คน
โดย ผศ.ดร.ปริญญา กล่าวว่า สาเหตุที่เลือกมาทำกิจกรรมพายเรือคายัค ที่บริเวณปากอ่าวแม่น้ำบางปะกงในวันนี้ เนื่องจากบางปะกงเป็นแม่น้ำที่ไหลออกสู่ทะเลอ่าวไทยเช่นเดียวกันกับแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำแม่กลอง และท่าจีน ประเทศไทยนั้นถือเป็นประเทศที่มีการทิ้งขยะลงทะเลมากเป็นอันดับ 6 ของโลก ขยะที่ลงทะเลก็คือขยะที่มาจากแม่น้ำที่ถูกทิ้งกันตามลำคลองจากนั้นจึงไหลออกสู่ทะเล วันนี้จึงมาเก็บขยะที่บางปะกงก่อนที่จะออกไปยังอ่าวไทย
ซึ่งในการเก็บขยะในวันนี้ไม่ใช่เพื่อต้องการแค่เพียงเก็บขยะขึ้นมาจากน้ำเพียงอย่างเดียว แต่เป็นการเก็บขยะที่เป็นการสื่อสารเพื่อที่จะบอกข่าวไปถึงยังพี่น้องประชาชนตามแม่น้ำ ลำคลองต่างๆ ว่าทุกคนนั้นสามารถช่วยเราได้ในการเก็บขยะจากแม่น้ำ ด้วยการไม่ทิ้งขยะลงแม่น้ำ เนื่องจากยังมีประชาชนบางส่วนที่ยังคงทิ้งขยะลงแม่น้ำ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้มีขยะในแม่น้ำและทะเล “ขอเพียงเราทุกคนไม่ทิ้งขยะลงแม่น้ำและทะเล แม่น้ำและทะเลของไทยก็จะสวยงามตลอดไป”
กิจกรรมวันนี้เป็นการเก็บขยะร่วมกันระหว่างนักศึกษาธรรมศาสตร์ และนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รวมทั้งชุมชนทั้ง 8 แห่งในเทศบาล ต.ท่าข้าม ตลอดจนโรงเรียนในพื้นที่อีก 4 แห่ง ได้มาช่วยกันในการที่จะทำให้ขยะหมดไปจากแม่น้ำบางปะกง และขยะที่จะออกทะเลในวันนี้จะหมดไปด้วยมือของเรา
ส่วนสาเหตุที่เลือกใช้เรือคายัคมาพายเก็บขยะกันในวันนี้ เนื่องจากเรือคายัคนั้นพายง่าย พายสะดวก และอยู่ติดพื้นน้ำทำให้เราสามารถเก็บขยะได้โดยง่าย และเรือคายัคนั้นเป็นเรือที่ใช้ในการออกกำลังกายซึ่งบางคนนั้นมีเรืออยู่แล้ว ขณะที่ธรรมศาสตร์นั้นมีเรืออยู่แล้วถึง 40 ลำ ผศ.ดร.ปริญญา กล่าว
ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวได้เข้าสอบถามถึงความคิดเห็นจากผู้เข้าร่วมกิจกรรมที่มาจากหลากหลายสาขาอาชีพถึงสาเหตุในการตัดสินใจมาเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ โดย นายประสงค์ พระวิสัย อายุ 45 ปี เจ้าหน้าที่ฝ่ายซอฟแวร์ (IT) ธนาคารกรุงไทยสำนักงานใหญ่ กล่าวว่า การตัดสินใจเข้ามาร่วมกิจกรรมในวันนี้ ถือเป็นกิจกรรมเล็กๆ น้อยๆ ที่เราสามารถทำได้ จึงได้สมัครใจเข้ามาร่วมกิจกรรมทางเฟชบุ๊ก
โดยมาเพียงลำพังคนเดียว หลังจากได้ร่วมกิจกรรมแล้วไม่รู้สึกเหนื่อยและเพลิดเพลินที่ได้เห็นวิวเห็นความสวยงามของธรรมชาติบริเวณปากอ่าวบางปะกง ซึ่งปกตินั้นไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน และไม่เคยเข้ามาที่บริเวณปากอ่าวแม่น้ำบางปะกงมาก่อนเลยครั้งนี้จึงเป็นครั้งแรกที่พายเรือในแม่น้ำ สำหรับการเก็บขยะในวันนี้ได้ขยะค่อนข้างมากทั้งโฟม ขวด กล่องนม ผ้าอ้อมสำเร็จรูป (แพมเพิส) นายประสงค์ กล่าว
ส่วน นายเกียรติทวี พาพรชัย อายุ 48 ปี เจ้าของบริษัท ADDON.COM ผู้จำหน่ายผ้า ตั้งอยู่เลียบทางด่วนมอเตอร์เวย์ย่านทับช้าง กทม. กล่าวว่า ตนเองนั้นชอบกีฬาทางน้ำจึงได้นำพาบุตรสาว คือ ด.ญ.ธารา พาพรชัย อายุ 10 ขวบ ซึ่งชื่นชอบกีฬาทางน้ำมาสมัครเข้าร่วมกิจกรรมในวันนี้ด้วย เพื่อให้บุตรสาวได้มาท่องเที่ยวสนุกสนานและดูแลด้านสิ่งแวดล้อมไปด้วย
แม้จะเป็นกิจกรรมเก็บขยะที่ช่วยได้แค่เพียงเล็กน้อยแต่ก็ยังดี จึงได้พากันออกมาทำกิจกรรมเก็บขยะเพื่อสังคมบ่อยครั้ง ประมาณ 1-2 เดือนต่อครั้งเป็นเวลากว่า 1 ปีแล้ว เพราะทำให้รู้สึกดีขึ้นเมื่อเห็นขยะจำพวกขวดโฟมลอยน้ำมาทำให้วิวทิวทัศน์ดูไม่ดี จึงได้มาช่วยกันเก็บเพื่อให้สิ่งแวดล้อมดีขึ้น และในวันนี้ก็เป็นการเข้ามาที่ปากอ่าวบางปะกงเป็นครั้งแรกเช่นเดียวกัน
ขณะที่ ด.ญ.ธารา กล่าวว่า มาร่วมพาย เรือคายัค เก็บขยะได้กระป๋องน้ำและโฟมจำนวนมาก หากในแม่น้ำมีแต่ขยะมากนั้นไม่ดีเพราะอยากให้ทะเลและแม่น้ำสะอาด ไม่เคยมาที่แม่น้ำบางปะกงมาก่อนน้ำเย็นมากจึงไม่รู้สึกเหนื่อยและสนุก อยากบอกเพื่อนๆ ด้วยกันว่าให้ช่วยกันทำให้น้ำสะอาด หากเห็นคนทิ้งขยะลงแม่น้ำก็อยากจะบอกกับเขาว่าอย่าคิดว่าโยนขยะทิ้งไปชิ้นเดียวแล้วไม่มีอะไร แต่หากคนอื่นๆ พากันทำตามและทิ้งกันทุกวันแม่น้ำก็จะไม่สะอาด และหากสัตว์กินขยะเข้าไปก็จะตาย ด.ญ.ธารา กล่าว
ด้าน น.ส.ขวัญเรือน ซุยพิมพ์ อายุ 16 ปี นักเรียนชั้น ม.4 โรงเรียนบางปะกงบวรวิทยายนต์ กล่าวว่า ขยะส่วนใหญ่ที่เก็บได้นั้นเป็นขยะโฟมและผักตบชวา ในแม่น้ำบางปะกงนั้นเชื่อว่ามีขยะเยอะมากเพราะมีโรงงานอุตสาหกรรมอยู่ในพื้นที่จำนวนมาก แต่เมื่อวานนี้มีฝนตกหนักมาชะล้างขยะไปหมดจึงทำให้การเก็บขยะในวันนี้ได้น้อยกว่าที่คิด
ส่วนกิจกรรมวันนี้สนุกมากเพราะไม่เคยลงเรือมาก่อน ซึ่งการทำกิจกรรมได้ขนาดนี้ก็จะทำให้ชาวบ้านได้เห็นว่าขยะในน้ำนั้นมีเยอะแค่ไหน และจะได้ช่วยกันไม่ทิ้งขยะลงแม่น้ำ เพราะขยะจะทำให้สิ่งมีชีวิตต่างๆ ได้รับผลกระทบทั้งตัวเรา และสัตว์น้ำ น.ส.ขวัญเรือน กล่าว
ขณะที่ น.ส.จิตติภัค พงศ์พันธุ์ภาณี อายุ 18 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยศรีนครินทร์วิโรจน์ ชั้นปีที่ 1 กล่าวว่า การทำกิจกรรมในวันนี้ทำให้มีความรู้สึกว่าเราเก็บขยะเท่าไหร่ก็เก็บไม่หมด จึงอยากให้ทุกคนคิดก่อนจะทิ้ง เพราะขยะในแม่น้ำเยอะมากจึงรู้สึกว่าถ้าเราช่วยกันไม่ทิ้งหรือทิ้งน้อยลงก็จะทำให้แม่น้ำสะอาดกว่านี้ น.ส.จิตติภัค กล่าว
ขอบคุณข่าวจาก คมชัดลึก
